สร้างวิถีผู้นำสู่ World Summit ด้วยรอยยิ้มแบบไทยๆ

 |
การก้าวขึ้นไปปักธงไทยบนยอด 1 ใน 7 ของ World Summit เป็นความสำเร็จที่คนไทยสามารถที่จะทำได้ไม่แพ้คนชาติใดในโลกและที่สำคัญเรายังสามารถที่จะมีรอยยิ้มแบบไทยๆ ที่ทำให้ทุกก้าวที่เราเดินขึ้นสู่ยอดเขาสามารถทวีคูณความสุขและรอยยิ้มจากต่อมสุขใจ ผู้เขียนมีโอกาสร่วมจัดโครงการ Leadership Voyage ; Beyond World Summit with Everest Strategy and Thai SMILE Principle ร่วมกับคุณวิทิตนันท์ โรจนพานิช ที่เป็นคนไทยคนแรกที่พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก โดยนำเอาประสบการณ์และเคล็ดลับในวางกลยุทธ์ที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์(Everest Strategy) ของคุณวิทิตนันท์ ร่วมกับกระบวนการถอดรหัสความสุขของผู้นำ (SMILE: The DNA of Leadership Happiness) ในหนังสือ Best Seller ของผู้เขียนมาสร้างเป็น กระบวนการในการพัฒนาวิถีผู้นำด้วยรอยยิ้มแบบไทยๆ หรือ Leadership Voyage development with Thai SMILE เพื่อช่วยเพิ่มวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำของนักธุระกิจไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก
คุณวิทิตนันท์ กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า ประสบการณ์ Leadership Voyage ของการพิชิตยอดเอเวอเรสต์ซึ่งเป็นยอดที่สูงที่สุดในโลกของ 7 World Summits ทำให้สามารถค้นพบศักยภาพและสไตล์ของผู้นำที่แท้จริงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ต้องพัฒนาทักษะในการวางโครงสร้างพิมพ์เขียวของความสำเร็จบนต่อมสุขใจเพื่อสร้างพลังและแรงดึงดูดในการขับเคลื่อนในการก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆตลอดจนพิชิตชัยชนะในทุกก้าวที่เดินในทางพร้อมด้วยรอยยิ้มในทุกย่างก้าวสู่ความสำเร็จ คุณวิทิตนันท์และผู้เขียน์ได้แบ่งกระบวนการในการพัฒนาวิถีผู้นำออกเป็น 3 Phase ด้วยกันก็คือ Phase I ค้นหาและชื่นขมศักยภาพบนต่อมสุขใจที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน (Assess and awake seen and unseen leadership happiness sweet spot) ศักยภาพของความเป็นผู้นำเป็นพลังที่สำคัญที่ปกติแล้วเรามักจะใช้ไม่ถึง 10% ซึ่งมักจะเป็นความสามารถในระดับจิตสำนึก แต่ถ้าเราสามารถค้นหาและขับพลังแห่งศักยภาพในระดับจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในออกมาใช้ ยิ่งศักยภาพที่เราขับออกมาตั้งอยู่บนฐานของต่อมสุขใจด้วยแล้ว ยิ่งเราใช้มากเท่าไหร่การทวีคูณของความสุขก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามถ้าเราไปขับศักยภาพบบนฐานของต่อมเครียด ยิ่งเราใช้มากเท่าไหร่ กระแสของความเครียดก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น คุณวิทิตนันท์กล่าวกับผู้เขียนว่าการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อก้าวขึ้นไปอยู่บนยอดเอเวเรสต์ได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแรงขับจากภายในโดยเเฉพาะอย่างยิ่งจากต่อมสุขใจเพื่อพิชิตอุปสรรคซึ่งเป็นเสมือนพญามัจจุราชที่สามารถคร่าวชีวิตของนักปีนเขาได้ทุกขณะ ต่อมสุขใจของคุณวิทิตนันท์คือ การมีความคมชัดของวิสัยทัศน์ที่เป็นเหมือนเข็มทิศไปสู่ความสำเร็จ การใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างความคล่องตัวในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงตลอดจนการประสานความคิดและสื่อสารเพื่อขับเคลื่อนทีมงานให้สามารถพิชิตยอดเขาร่วมกัน
ถ้าเราเจียระไนและขับขุมพลังเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้เกิดขึ้นในใจและกายของเรา อุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความกลัว วิกฤตของธรรมชาติ ความไม่พร้อมของร่างกายก็สามารถก้าวข้ามได้เสมอถ้าเรามีรอยยิ้มจากต่อมสุขใจที่อยู่ภายใน คุณวิทิตนันท์กล่าวเสริมว่า ผมแข็งแรงขึ้นทุกวันและวันที่แข็งแรงที่สุดก็คือวันที่อยู่บนยอดเอเวอเรสต์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 Phase II สร้างและเชื่อมั่นในพิมพ์เขียวและเป้าหมายของความสำเร็จด้วยสมองและหัวใจ (Architect and Articulate committed leadership blueprint with head and heart) เมื่อเรารู้จักตัวเราเอง รู้จักศักยภาพ การสร้างภาพของความสำเร็จที่คมชัดที่มาจากทั้งสมองและหัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ให้รู้ว่า ยอดเขาลูกไหนที่เหมาะสมกับความสามารถพื้นฐานที่มีอยู่ในตัวเรา การบรรจงวาดภาพความสำเร็จด้วยคำถาม 4 คำถามเพื่อเป็นเครื่องมือในการเช็คความพร้อมของพิมพ์เขียวของภาพความสำเร็จของเราก็คือ ความท้าทาย ความเชื่อมั่น คำมั่นสัญญาและความกล้าด้วยพลังจากต่อมสุขใจในการทุกย่างก้าวที่เดิน ถ้าภาพความสำเร็จนั้นทำให้หัวใจเราพองโต เรามีความเชื่อมั่นในความสามารถของเรา มีคำมั่นสัญญาในการพัฒนาและกล้าที่จะก้าวไปหาความสำเร็จด้วยการทวีคูณความสุขในทุกย่างก้าวที่เดิน คุณวิทิตนันท์กับผู้เขียนได้วาดพิมพ์เขียวของการไปที่ยอดเขา Kilimanjaro ซึ่งเป็นยอดเขาที่สุงสุด 1 ใน 7 ของโลกพร้อมกับ CEO ชั้นนำอีกหลายท่าน ในกระบวนการบรรจงวาดภาพของความสำเร็จทำให้เรามีความเชื่อมั่นและศรัทธาในเป้าหมายตลอดจนศักยภาพที่อยู่ในตัวเราว่าสามารถจะนำความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งของต่อมสุขใจมาใช้ให้เกิดทวีคูณรอยยิ้มในทุกย่างก้าวที่เดิน Phase III สร้างดุลยภาพในการพิชิตชัยชนะในทุกก้าวของการเดินทาง (Align and attune leadership action in winning small and win often) เมื่อสมองพร้อม ใจพร้อม ทุกก้าวที่ก้าวเดินจะต้องสามารถพัฒนาศักยภาพในระดับที่่สูงขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ การสร้างชัยชนะในทุกก้าวพร้อมรอยยิ้มจากใจเป็นสิ่งที่สำคัญในการขับความสามารถที่มีอยู่ภายในให้เจิดจรัส Win Small and Win Often การมีชัยชนะเล็กๆและบ่อยๆจะสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความแข็งแกร่งทั้งจิตและกาย ถ้าจะก้าวไปพิชิตยอดเขา Kilimanjaro ได้จำเป็นที่จะต้องเริ่มจากพิชิตความแข็งแกร่งในการฝึกฝนร่างกายและจิตใจของตัวเอง จากนั้นก็ต่อด้วยพิชิตความท้าทายของยอดเขาในเมืองไทย ในเอเซียและในระดับ 1 ใน 7 ของโลกในที่สุด ซึ่งการมี Leadership Coach ใน Phase นี้เป็นส่วนที่สำคัญในการสะกิดมุมของศักยภาพที่โดดเด่นมาใช้ในสถานะการณ์ที่เหมาะสม การปรับดุลยภาพของใจและร่างกายให้เหมาะสมกับสภาวะของธรรมชาติและอุปสรรคที่เปลี่ยนไปเป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่จะทำห้เราก้าวไปสู่วุฒิภาวะที่สูงขึ้นในการเป็นผู้นำ การสร้างวุฒิภาวะของผู้นำด้วยประสบการณ์และทักษะในการพิชิตภูเขาสูงในระดับ 1 ใน 7 ของโลกจะสร้างความพร้อมในการสร้างความสามารถในการการแข่งขันในระดับโลกของคนไทยไม่ว่าจะเป็นแห่งใดใน 7 ทวีปของโลกนี้อย่างแน่นอน
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785
บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์
|