|
|
|
|
|
|
ถอดรหัสความสุขเพื่อสร้างพิมพ์เขียวของวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม |
|
ถอดรหัสความสุขเพ่ือสร้างพิมพ์เขียวของวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม
Innovation หรือการสร้างนวัตกรรมในองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างก้าวกระโดดทางการแข่งชันในปัจจุบัน หลายองค์กรพยายามทลายกรอบความคิดเดิมๆ ในอดีต แต่หลายองค์กรก็ยังติดอยู่กับกับดักความสำเร็จซึ่งเป็นโครงสร้างของค่านิยมและวัฒนธรรมที่เคยประสบความสำเร็จในอดีตทำให้ไม่สามารถก้าวกระโดดไปสร้างความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต
ค่านิยมและวัฒนธรรมเปรียบเสมือนเรือนกระจกที่คอยสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมเพื่อให้เมล็ดพันธุ์สามารถเติบใหญ่และอกดอกผล ถ้าเราสามารถถอดรหัสความสุขของพันธุ์กรรม(DNA) ได้อย่างถูกต้องก็สามารถที่ขับพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ขององค์กรให้เกิดเป็นการก้าวกระโดดทางนวัตกรรม
กระบวนการถอดรหัสความสุขของค่านิยมในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทีมงานของผู้เขียนได้นำไปช่วยบริษัทชั้นนำในเมืองไทยไม่ว่าจะเป็น Microsoft, BOI, A-Host, Oracle, QAD Iris-Ifec, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, หลักทรัพย์กสิกรไทย, PQ Chemical, LEO Group of Companies เป็นต้น โอยมี 4 ขั้นตอนหลักด้วยกันก็คือ
1. กำหนดพิมพ์เขียวบนต่อมสุขใจขององค์กร (Organization Strategic heartbeat)
หลายองค์กรสร้างวัฒนธรรมใหม่ในความฝันที่เป็นอุดมคติ หลายครั้งเกิดจากความอยากแต่มิได้สอดคล้องกับของพื้นฐานความเก่งและต่อมสุขใจที่มีมาในอดีต ในขั้นตอนแรกนี้เป็นรากแก้วที่สำคัญที่ทีมของผู้เขียนจะไปช่วยค้นหาอัจฉริยภาพของอุปนิสัยพื้นฐานขององค์กรที่เรียกว่าต่อมสุขใจขององค์กร ที่สร้าง Passion หรือแรงขับให้เดินไปข้างหน้า
ในขณะเดียวกันก็ทำการนำเอากระจกมาส่อง 360 องศารอบองค์กรว่า ลูกค้าและคู่ค้าคนสำคัญและแม้กระทั่งคู่แข่งเขามีอะไรที่ยอดเยี่ยมที่ถ้าเราต่อยอดจากความเก่งของต่อมสุขใจเดิม เราสามารถที่จะติด Turbo ในการพัฒนาการให้เกิดแนวนวัตกรรมใหม่อย่างเป็นธรรมชาติiรวมทั้งพาทีมผู้บริหารระดับสูงไปเรียนรู้และเยี่ยมชมองค์กรชั้นนำในภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อเรียนรู้และตกผลึกเป็นค่านิยมใหม่
องค์กรชั้นนำองค์กรหนึ่งได้ให้ทีมผู้เขียนไปช่วยสำรวจต่อมสุขใจขององค์กรว่า Organization Strategic Heartbeat นั้นอยู่ตรงไหน ทีมงานของผู้เขียนพบว่า ความเก่งในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาลูกค้าเป็นสิ่งที่องค์กรทำให้ดีเยี่ยมทำให้ลูกค้าวิ่งมาหาเสมอแต่ปัญหาคือไม่สามารถรักษาลูกค้าดีไว้ได้ในระยะยาว ในขณะเดียวกันก็ยังมีต่อมสุขใจที่ยังไม่ได้ถอดรหัสก็คือความสามารถในการผูกใจและสร้างนวัตกรรมในบริการกับลูกค้าคนสำคัญซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพรสวรรค์ที่ยังไม่ได้เจียระไน เมื่อเราชี้ให้เห็นถึงต่อมสุขใจซึ่งเป็นพรสวรรค์ตรงนี้ แล้วสร้างค่านิยมที่ชี้ไปไปในมุมของการเน้นบริการอย่างสร้างสรรค์ที่ให้คำปรึกษาด้วยการวิเคราะห์ถึงปัญหาอย่างรู้ใจ ซึ่งเป็นความแตกต่างที่โดดเด่นที่คู่แข่งในธุรกิจเดียวกันไม่มี ทำให้กลายเป็นจุดเน้นของค่านิยมใหม่ทั่วองค์กร
เมื่อผู้บริหารเห็นประเด็นตรงนี้ก็ชูเป็นค่านิยมเด่นขององค์กรเพื่อสร้างให้เป็นอุปนิสัยใหม่ของทุกคนซึ่งในอดีตองค์กรก็ทำแบบลุกทุ่งขึ้นอยู่กับใครใคร่ทำก็ทำ ทีมงานผู้เขียนไม่ลืมที่จะค้นหาว่าค่านิยมใหม่นี้เป็นต่อมสุขใจของผู้บริหารระดับบนทุกคนหรือไม่ เพราะถ้าไม่ใช่พิมพ์เขียวนี้ก็จะเกิดเป็นจริงยากเพราะคนไทยต้องการแบบอย่างดีๆ ที่ทำให้เห็น
2. สร้างทูตวัฒนธรรมพันธุ์ใหม่ (Walk the talk Cultural Leader)
เมื่อพิมพ์เขียวของค่านิยมคมชัดและสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจและเป็นต่อมสุขใจของผู้บริหารระดับสูง จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรจะต้องสร้างทูตวัฒนธรรมต้นแบบจากผู้บริหารระดับกลางและผู้นำเครือข่ายในระดับปฎิบัติการที่มีอุปนิสัยพื้นฐานที่สอดคล้องกับค่านิยมใหม่
ผู้เขียนได้สร้างกระบวนการ Edutainment Creation เพื่อสร้าง Multi-media โดยมีทั้งหนังของอุปนิสัยใหม่และเก่า คำขวัญ เพลงและคู่มือในการถ่ายทอด โดยผู้บริหารระดับ สูงและระดับกลางจะเป็นเสมือนผู้กำกับที่หาดาราที่เป็นผู้นำเครือข่ายในในระดับปฎิบัติการมาเป็นพระเอกนางเอก เป็นนักร้องซึ่งจะสามารถเป็นทูตทางวัฒนธรรมคนสำคัญที่สาธิตการปฎิบัติที่เป็น Walk the Talk Leader จริงๆ
3. ขยายเครือข่ายทูตวัฒนธรรม (Expand Walk the talk Leader Community)
เมื่อเรามี Hi-Impact Edutainment Package ที่สามารถสื่อแนวคิดด้วยทูตทางวัฒนธรรมที่เห็นเป็นตัวอย่างได้จริง ผู้เขียนก็จะช่วยจัดหลักสูตรเพื่อถ่ายทอดโดยเป็นอาจารย์คู่กับทูตวัฒนธรรมที่ใช้ Multi-media เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่จับต้องได้จริงและแต่ละรุ่นเราจะเลือกทูตวัฒนธรรมรุ่นใหม่ในหลักสูตรที่จะทำหน้าที่เป็นแมวมองในการหาเครือข่ายของทูตวัฒนธรรมที่ขยายวงออกไป แต่ละองค์กรจะใช้เวลาในส่วนนี้ประมาณ 2-6 เดือนแล้วแต่ขนาดขององค์กรเพื่อสร้างเครือข่ายทูตวัฒนธรรมที่ใหม่ที่มีจำนวนมากพอที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมใหม่ได้
4.สะสมผลลัพธ์ของวัฒนธรรมใหม่ที่เป็นรูปธรรม (Practical Best Practices story)
เมื่อเราได้แนวร่วมของทูตวัฒนธรรมมากขึ้นในกระบวนการนี้ก็คือสะสมเรื่องราวดีที่เกิดจากวัฒนธรรมใหม่ที่มีนวัตกรรมของการสร้างสรรค์ที่เป็นจุดเน้นในค่านิยมในองค์กรชั้นนำทั้งหลาย บางองค์กรก็จัดเป็น “เรื่องราวนวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งเดือน” เพื่อสร้างผลลัพทธ์ที่เป็นรูปธรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนองค์กรไปในมิติใหม่ กระบวนการนี้ผู้เขียนจะมีหน้าที่เหมือนกับเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมทูตวัฒนธรรมเพื่อสร้างกระบวนการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อสะสม Innovation bank หรือธนาคารนวัตกรรมที่จะเป็นแก่นของความได้เปรียบการแข่งขันในอนาคตขององค์ร
การสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมก็เปรียบเสมือนการหมั่นสร้างหยดน้ำแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เมื่อวางกลยุทธ์ในการรวมพลังได้อย่างถูกต้องก็จะกลายเป็นคลื่น Tsunami แห่งวัฒนธรรมใหม่ในที่สุด
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร E-mail : kris@e-apic.com, Mobile 081-617-7785
บทความได้รับการเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์
|
|
|
|
|
|