บันได 5 ขั้นในการสร้างผู้นำพันธุ์ใหม่ที่ไร่ใจยิ้ม Leadership Academy
ถ้าจะถามว่า "พรสวรรค์กับพรแสวง" อะไรสำคัญกว่ากันก็เปรียบเสมือนคำถามที่ว่า "รากกับลำต้น" อะไรสำคัญกว่ากัน ความสำเร็จกับความสุขในการเจริญเติบโตในการเป็นผู้นำต้องการทั้งความชอบและทักษะในการสร้างความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ พรสวรรค์เป็นกุญแจดอกสำคัญในการสร้างความรู้สึกชอบและรักในสิ่งที่ทำ ถ้าเรามีพรแสวงด้วยแล้วเราก็จะสร้างวินัยในการหมั่นฝึกฝนทักษะให้เกิดเป็นความเก่งในการแสดงความสามารถ
ถ้าพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ในการมองโอกาสภายใต้วิกฤติหลายคนมักจะนึกถึงอัจฉริยะบุคคลที่มี IQ สูงทั้งหลาย แต่ในความเป็นจริงแล้วองค์กรชั้นนำในทางคิดค้นนวัตกรรมใหม่ทั้งหลายมักจะสร้างกระบวนการในการประสานแนวความคิดสร้างสรรค์ ของทีมงานในทุกระดับที่เรียกว่า C-R-E-A-T-E เพื่อนำไปใช้ในการระดมความคิดของคนในทุกระดับซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสะกิดต่อมสร้างสรรค์และต่อยอดความคิดเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในการบริหารวิกฤติให้เป็นโอกาส
ทุกคนมีความฝัน จะมีสักกี่คนที่สามารถสร้างฝันให้เป็นจริง ผู้นำที่ประสบความสำเร็จดูเหมือนจะมีพลังที่เหลือเฟือในการสร้างความมุ่งมั่น สร้างความสุข สร้างแรงดึงดูด สร้างสรรค์หนทางเดินสู่ความสำเร็จ ในการขับเคลื่อนปัจจุบันเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริงด้วยบ่อเกิดพลังจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ
ผู้นำที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ในการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ แต่ผู้นำจะต้องสามารถเลือกและวางกลยุทธ์ในการสร้างเอกลักษณ์จากทรัพยากรที่มีอยู่แล้วเจียระไนเหลี่ยมและมุมให้ดูโดดเด่นไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ซึ่งนั่นก็คือการสร้าง Leadership Branding ด้วยบันได 5 ขั้น B-R-A-N-D
บทบาทใหม่ของการสร้างทีมงาน Hi-Trust Hi-Performance Team ที่มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนและประสานบทบาทผู้นำหรือที่เรียกว่า Share Leadership ทีมแต่ละคนต้องมีวุฒิภาวะของผู้นำในตัวเองสูง ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองและทีมงาน ช่วยกันวางเป้าหมายของการเดินทางร่วมกันบนพื้นฐานของต่อมสุขใจของทุกคน พร้อมทั้งสามารถที่จะต่อยอดความเก่งและรอยยิ้มในชัยชนะในทุกก้าวที่เดินทางไปหาเป้าหมายของความสำเร็จโดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า T-E-A-M
การสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของความคิด คำพูดและการกระทำเป็นกระบวนการประสานพลังในการสื่อสารที่สำคัญของผู้นำเพราะถ้าผู้นำคิดไปทางหนึ่ง พูดไปอย่างหนึ่งและกระทำไปอีกทางหนึ่ง จะสร้างความยากลำบากและความสับสนในการสื่อสารเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะเดินตาม
ศักยภาพและโอกาส อันไหนสำคัญกว่ากัน หลายคนมีคำถามกับผู้เขียนว่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จนั้นมีการบริหารดุลภาพนี้อย่างไร ทำไมผู้นำหลายท่านจึงมีโอกาสวิ่งเข้ามาในชีวิตอยู่เสมอ อะไรที่ทำให้ผู้นำเหล่านั้นสามารถบริหารความสัมพันธ์ระหว่างศักยภาพและโอกาสอย่างลงตัว
การเอาชนะความกลัวในการก้าวข้ามข้อจำกัดเพื่อปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของการพัฒนาวุฒิภาวะของผู้นำ พลังของความมหัศจรรย์ของขุนเขาสามารถสร้างบรรยากาศของความท้าทายที่สามารถสะกิดความเก่งและเพิ่มความแข็งแกร่ง
วุฒิภาวะความแข็งแกร่งของผู้นำในสังคมของ Social Network นั้นแตกต่างไปจากโลกของการบริหารแบบเดิมๆ ที่ผู้นำเป็นเสมือนหลวงรอบรู้ที่มีคำตอบสำหรับทุกสิ่ง การสร้างคุณสมบัติผู้นำในสังคมของ Social Network ที่เรียกว่า i-leadership นั้นจำเป็นต้องพัฒนาความแข็งแกร่งในภาวะผู้นำใน 5 มิติ
ผู้นำที่ต้องอยู่ในสภาวะความกดดันของการแข่งขันและความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดูแล สุขภาพทั้งใจและกายให้แข็งแรงเพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างภูมิต้านทานและสร้างพลังบวกในการบริหารชีวิต มิฉะนั้นแล้วหลายคนจะเกิดอาการ Burn-out ก่อนถึงวัยอันควร
ความสำเร็จไม่ใช่กุญแจของความสุขเสมอไป แต่ความสุขเป็นพื้นฐานที่สำคัญของความสำเร็จ ผู้นำหลายคนมุ่งหน้าสู่ "ความสำเร็จ" โดยลืมหยุดคิดและถามตัวเองว่า ถ้าเราสามารถกระตุ้นต่อมสุขใจในการเดินทางไปหาความสำเร็จ เราก็จะสามารถสร้างสุขร่วมไปกับความสำเร็จมิใช่ทาง 2 แพร่งที่ต้องเลือกอีกต่อไป
Top executives from some of Thailand's major companies shared their experiences from attending the Rai Jai Yim leadership academy, where adventurous activities help individuals and their teams unleash their potential..
Leadership is like a steel sword forged from brittle iron through a process of heating and pounding by a master sword-smith. A leader's inner strengths, both physical and mental, can only be manifest when he or she is tested by hard work and in the crucible of leadership situations, says Kris Ruyaporn, chief executive of Asia Pacific Innovation Centre and founder of the Leadership Academy @ Rai Jai Yim.
วุฒิภาวะความแข็งแกร่งของผู้นำในสังคมของ Social Network นั้นแตกต่างไปจากโลกของการบริหารแบบเดิมๆที่ผู้นำเป็นเสมือนหลวงรอบรู้ที่มีคำตอบสำหรับทุกสิ่ง ผู้นำ i-leadership ต้องรู้จักต่อมสุขใจ ความเก่งและมี Brand ที่เด่นชัด มีแรงบันดาลใจที่ขับเคลื่อนจากภายใน ตลอดจนมีความสามารถในการสะกิดและประสานความเก่งให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในสังคมเครือข่ายที่รู้ใจ
การสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญในการนำการเปลี่ยนแปลง ผู้นำการเปลี่ยนแปลงจำเป็นที่จะต้องวางกลยุทธ์ในการสื่อสารเพื่อสามารถสื่อความศรัทธาและภาพแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่เข้าไปในหัวใจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความรู้สึกที่หึกเหิมในการนำการเปลี่ยนแปลงตลอดจนสร้างกระบวนการในการประสานความเก่งที่ใช้สมองของทีมงานวางแนวทางปฎิบัติในการสร้างความสามารถใหม่และวัฒนธรรมใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม
ผู้นำแต่ละคนมีจังหวะของความเร็วในการนำไม่เหมือนกัน ถ้าเราเร่งความเร็วในชีวิตมากเกินไปเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จ อาการ Burn-out หรือมลพิษทางอารมณ์จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันถ้าความเร็วของเราไม่สัมพันธ์กับทีมงานเราอาจจะกลายเป็นความกดดันให้เขาเกิดความเครียดในชีวิตได้เช่นเดียวกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องรู้จักจังหวะความเร็วของตัวเอง รู้จักจังหวะของทีมงานเพื่อสรรค์สร้างวิสัยทัศน์ในจังหวะที่ประสานพลังให้เป็นหนึ่งเดียว
พลังของคำพูดเป็นอาวุธที่สำคัญของผู้นำที่ใช้ในการสื่อสารความคิด วิสัยทัศน์หรือแนวทางในการปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆในองค์กร
ความมั่งคั่งรำ่รวยของผู้นำจำเป็นต้องปลูกฝังความมั่งคั่งมิใช่เพียงในด้านอิสรภาพทางด้านการเงินเพียงอย่างเดียวแต่ยังต้องครอบคลุมมิติอื่นๆในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมิติทางด้านเวลา การงาน การสร้างคุณค่าให้กับสังคม
ผู้นำหลายคนที่เน้นถึงความสำคัญในการสร้างธุรกิจ สร้างรายได้ สร้างผลกำไรแต่มักจะสูญเสียสุขภาพ ไม่มีเวลาทำสิ่งที่เคยฝันว่าอยากจะทำ สูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง มีความเครียดสั่งสมเป็น Emotional Toxic อยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งทางด้านการเงินและการขยายตัวของธุรกิจแต่ก็มีความรู้สึกขาดความสุขในการเดินทางไปสร้างความสำเร็จ ดูเหมือนชีวิตขาดหายอะไรบางอย่างไป